ซอฟต์แวร์ออกแบบก่อสร้างกระหึ่ม
สองผู้ค้าเร่งปรับทัพรับตลาดโตชี้ผู้ใช้งานเริ่มเห็นความสำคัญ สามารถลดต้นทุน พร้อมเร่งปรับทัพรับตลาดรวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท "ทูพลัส" เดินหน้าประมูลโครงการภาครัฐและเอกชน คาดมีรายได้ 150 ล้านบาท ส่วน"ตั้มซีวิว" เตรียมขยายฐานเดินสายจัดอบรมสัมมนา
นายชาติชาย สุภัควนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทูพลัส ซอฟท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายซอฟท์แวร์ทางด้านการก่อสร้างอาคาร เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดในปี 2549 บริษัทจะม่งเน้นการเข้าประมูลโครงการต่างๆของทางภาครัฐบาล และเอกชนให้มากกว่าที่ผ่านมา รวมถึงการเข้าเจาะตลาดด้านสถาบันการศึกษา เพื่อนำซอฟท์แวร์ดังกล่าวไปใช้ประกอบในการเรียนการสอน จากเดิมที่มีใช้อยู่แล้วในหลักสูตรปริญญาโทหลายมหาวิทยาลัย ไปสู่หลักสูตรปริญญาตรี นอกจากนี้ก็จะมีการจัดสัมมนาเชิงวิชาการ เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานจริง ก่อนที่จะติดสินเลือกซื้อนำไปใช้งาน หรือเรียกว่าเป็นการสร้างความต้องการใช้งานให้กับลูกค้า
"การนำเทคโนโลยีทางด้านไอทีมาใช้งานในการออกแบบก่อสร้างอาคารสำนักงานต่างๆ มีแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับที่ผ่านๆมา เนื่องจากการนำซอฟท์แวร์ดังกล่าวไปใช้งานนั้น ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดต้นทุนได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ผู้ใช้งานเริ่มให้ความสนใจ และมีความต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่อง"
ทั้งนี้จากการปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าว เชื่อว่าจะส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 100% หรือมีรายได้ประมาณ 150 ล้านบาทในปีหน้า จากเดิมในปีที่ผ่านมาซึ่งบริษัทมียอดรายได้รวมประมาณ 80 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าตลาดรวมทั้งหมดคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10,000-20,000 ล้านบาท โดยซอฟท์แวร์ที่บริษัทจำหน่ายนั้นจะมีตั้งแต่ โปรแกรมการตกแต่งภายใน ,โปรแกรมก่อสร้างแบบ 3 มิติ และโปรแกรมวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้าง เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมทั้งหมดของบริษัทมีจุดเด่นอยู่ที่ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อการทำงานเข้าด้วยกันได้ทั้งหมด แม้ว่าจะซื้อไปใช้งานทีละโปรแกรม
ด้านนายอธิพัชร์ ศรเกตุ ผู้ก่อตั้งเว็บไซด์ ตั้มซีวิวดอทคอม (tumcivil.com) ซึ่งดำเนินธุรกิจจำหน่ายซอฟท์แวร์ที่ใช้งานด้านวิศวะกรรมโยธา กล่าวในทำนองเดียวกันว่า แนวโน้มการนำซอฟท์แวร์ดังกล่าวไปใช้งานในองค์กรนั้น มีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2549 ทางเว็บจะมีการปรับกลยุทธ์ในการทำตลาด เพื่อขยายฐานลูกค้า และสร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ด้วยวิธีการเปิดให้บริการจัดอมรมสอนวิธีการใช้งาน และแสดงให้เห็นถึงวิธีการนำซอฟท์แวร์ทางด้านวิศวะกรรมต่างๆไปใช้งานในองค์กรอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งเชื่อว่าจากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวจะสามารถทำให้ยอดรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอีกเป็นจำนวนมาก
สินค้าทั้งหมดที่จำหน่ายอยู่บนเว็บไซด์ส่วนใหญ่จะเป็นซอฟท์แวร์ทางด้านวิศวกรรมโยธาประมาณ 80% และที่เหลืออีก 20% ก็จะเป็นซอฟท์แวร์ทางวิศวกรรมด้านอื่นๆ ซึ่งราคาสินค้าก็จะมีตั้งแต่ประมาณ 150-9,000 บาท ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของลูกค้า โดยจุดเด่นของสินค้าบนเว็บนั้น อยู่ที่การพัฒนาโปรแกรมด้วยฝีมือคนไทย ซึ่งจำลองวิธีการทำงานมาจากโปรแกรมต่างๆจากต่างประเทศ มาประยุกต์ให้เหมาะสมกับวิธีการทำงานของลูกค้าในประเทศไทย
ปัจจุบันลูกค้าของบริษัทจะอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดประมาณ 50% ,กรุงเทพฯประมาณ 30% และที่เหลืออีก 20% จะอยู่ในเขตปริมณฑล ขณะที่ลูกค้าจากต่างประเทศก็มีบ้างแต่ยังไม่มากนัก ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเลือกซื้อซอฟท์แวร์ด้านดังกล่าวผ่านทางเว็บดังกล่าว จะมีทั้งที่มาจากการประชาสัมพันธ์ด้วยกันเองจากลูกค้าที่เคยใช้งาน แล้วแนะนำกันเองในกลุ่มผู้ที่ต้องการใช้งาน นอกจากนี้ก็ยังมีลูกค้าที่เข้ามาจากการหาสินค้าจากเว็บกลูเกิ้ลด้วยอีกเป็นจำนวน
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ
URL : http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=R4620732&issue=2073